พัดลมภายใน Case
มีทั้งดูดเข้าและเป่าออกครับตัวที่อยุ่ด้านหน้า
หรือด้านข้างเคสจะดูดเข้าตัวที่อยู่ด้านหลัง หรือด้านบน(ไม่ค่อยพบมีด้านบนมากนัก)
จะเป่าออก ครับ ถ้ามันร้อนมากต้องเช็คดูหลายๆที่ครับว่า มันร้อนจากไหน
ถ้าร้อนจาก CPU ลองเช็คดูซิลิโคนที่ติดไว้ด้วยก็ดีแต่ถ้าร้อนจากบอร์ดหาวิธีเป่าฝุ่นออกมาจากบอร์ดก็ดีครับ
ปล.เช็คอุณหภูมิได้จากโปรแกรมวัดอุณหภูมินะครับ
ระบบน้ำภายใน Case ( Water Cooling )
ระบบน้ำภายใน Case ( Water Cooling )
มาทำความรู้จักกับ อุปกรณ์กันครับ
1. Water Block ทำหน้าที่
นำความร้อนจากตัว CPU หรือ Chipset ต่างๆ ผ่านซิลิโคน มายัง ทองแดง หรือ
อลูมิเนียครับ
ขึ้นอยู่ว่าเราจะใช้ Block วัสดุใด โดย Water
Block จะมีให้เลือกใช้มากมายครับ เช่น
CPU การ์ดจอ Mainboard Chipset RAM HDD แต่โดยส่วนมากนะนิยมระบาย
CPU เป็นอันดับแรกครับ
แบบอลูมิเนียม
แบบทองแดง
การ์ดจอ
2. Radiator หรือหม้อน้ำ
นั่นเองครับ จะทำหน้าที่นำน้ำที่ระบายจาก CPU มาทำให้เย็นลง
ด้วยการใส่พัดลมช่วย
โดยหม้อน้ำจะมีหลากหลายขนาด ทั้ง หนา บาง โดยถ้าใส่พัดลมได้ 1 ตัว
(ด้านเดียว) จะเรียกว่า
หม้อน้ำ 1 ตอน ถ้าใส่ได้ 4 ตัว (ด้านเดียว) ก็จะเรียกว่า หม้อน้ำ 4
ตอนครับ
โดยถ้าหม้อน้ำมีขนาดใหญ่ก็จะสามารถ ระบายความร้อนได้ดี
และรวดเร็วขึ้นครับ
3.Water Tank หรือถังพักน้ำครับ
ทำหน้าที่พักน้ำในระบบ ควบคุมระดับน้ำ และสามารถเติมน้ำได้ในส่วนนี้ครับ
โดยหลักๆ จะมี 2 แบบ คือ
1.Water Tank ที่เป็น Tank รูปทรงกระบอก
2.Water Tank ที่เป็น Driver Bay ติดตั้งแบบ CD-ROM
แบบที่ 1 ครับ
แบบที่ 2 ครับ
3.ปั้มน้ำ ทำหน้าที่สูบน้ำให้วนเป็น Loop ได้ครับ บางรุ่นอาจจะติดมาพร้อมกับ Water Tank เลย
Pump ก็จะมีหลากหลายแรงดันครับ
4.Water Cable หรือสายยางนั่นเองครับ
ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำครับ
ซึ่งก็จะมีหลากหลายขนาด และหลากหลายสีครับ
5.Fitting ฟิตติ้ง
เป็นข้อต่อ ต่างๆ ที่จะเชื่อมระหว่าง
อุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งก็จะมีหลากหลาย
ขนาด ตาม Water Cable
6.Koolant หรือ
น้ำที่ใช้ระบายความร้อนนั่นเองครับ
โดยจะมีคุณสมบัติ ไม่นำไฟฟ้า หรือ น้ำกลั่นที่เราใช้ในรถยนต์นั่นเอง
โดยบางยี่ห้อ จะมีสี หรือ สามารถ สะท้อนแสงได้
การทำงาน
1.ทำความร้อนจาก CPU มายัง Water Block ผ่านสายยางไปยัง หม้อน้ำ
2.หม้อน้ำทำการระบายความร้อน โดยมีพัดลมช่วยเป่า
3.น้ำที่เย็น ไหลมายังถังพักน้ำ
4.ปั้มสูบน้ำที่เย็นแล้วไปยัง Waterblock
เพื่อทำการระบายความร้อนใหม่
โดยจะทำอย่างนี้ วน Loop ไปเรื่อยๆ
ครับบ
ระบบน้ำนั้นแบ่งออกเป็น 2 ระบบ คือ ระบบเปิด
และ ระบบปิด
ระบบเปิด
ด้านการทำความสะอาดนั้น
สามารถทำได้สะดวกสบายมาก เพราะสามารถเปลี่ยนน้ำได้ , การติดตั้งนั้นจะยากกว่าระบบปิด ,
ด้านราคานั้นแพงกว่าระบบปิดด้วย ด้านการอัพเกรด สามารถทำได้ทุกส่วน
ความเย็นนั้นเย็นกว่าระบบปิด และสามารถใส่บล๊อคน้ำเพิ่มได้
ระบบปิด
การทำความสะอาดทำได้น้อยเพราะไม่สามารถเป่าฝุ่นได้สะดวกเท่าระบบเปิด
การติดตั้งจะง่ายกว่าระบบเปิด ไม่สามารถปรับเปลี่ยนพัดลมได้ ไม่สามารถปรับแต่งได้
ด้านความเย็นจะเย็นกว่าฮีทซิงค์ทั่ว ๆ ไป และ ไม่สามารถใส่บล็อกน้ำเพิ่มได้เหมือน
ระบบเปิด